วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559

ว่าด้วยเรื่องของวิศวกรภาคีพิเศษ



นายธีรศักดิ์ ศรีมิตรรุ่งโรจน์ 


สามัญวิศวกร สาขาเครื่องกล (สก. 4026)
กลุ่มวิจัยและพัฒนางานวิศวกรรมขนถ่ายวัสดุและโลจิสติกส์
(Research and Development of Materials Handling and Logistics Engineering Laboratory Center)
(R&D - MHLELC)
ภาควิชาวิศวกรรมขนถ่ายวัสดุและโลจิสติกส์
คณะวิศวกรรมศาสตร์ 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ


ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนครับว่าระดับวิศวกรของประเทศไทยแบ่งออกกันรูปแบบไหน.. สำหรับบทความนี้ผมขอใช้คำแบบส่วนตัวนะครับ เพื่อความเข้าใจแบบง่ายๆตามวิธีการอธิบายของผม..

1. วิศวกรตามการจำแนกของผม แบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือ

1.1 กลุ่มปกติ : กลุ่มนี้หมายถึงเรียนจบตามหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ตามสถาบันฯต่างๆที่ทางสภาวิศวกรให้การรับรอง.. เพราะงั้นเมื่อเรียนจบตามหลักสูตร ได้เกรดเฉลี่ยในหมวด กว. นั้นๆไม่ต่ำกว่า C (และต้องเรียนเก็บครบทุกหมวดตามที่สภาวิศวกรรับรองในหลักสูตรนั้นๆ) ก็สามารถยื่นสอบเพื่อขอใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมได้ (ใบ. กว.) ซึ่งหากสอบผ่านปุ๊บ ท่านก็จะได้ใบ กว. (ระดับภาคีวิศวกร) ตามสาขาที่ท่านจบ เช่น เครื่องกล โยธา สิ่งแวดล้อม ฯลฯ

1.2 กลุ่มพิเศษ : กลุ่มนี้หมายถึงผู้ที่อาจไม่ได้เรียนจบทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ (หรือจบก็ได้) สามารถมาขอสอบใบอนุญาตเป็นภาคีพิเศษได้ตามความสามารถและประสบกราณ์ในงานที่ตนเองได้ทำมา เช่น นาย ก. จบวิศวฯเครื่องกลแต่คลุกคลีอยู่ในงานโยธาด้วยจนมีความรู้ในศาสตร์นี้เพิ่มเติมก็สามารถมาขอใบ กว. แบบภาคีพิเศษด้านโยธาเพิ่มเติมได้ หรือ นาย ข. จบเพียงแค่ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) แต่ทำงานด้านเครื่องกลมาจนมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ ก็สามารถมาของใบ กว. ภาคีพิเศษด้านเครื่องกลได้เช่นเดียวกัน

2.1 กลุ่มปกติ
2.1.1 วุฒิวิศวกร (เก๋าแล้ว กระดูกมวยแข็งปั้ก)
2.1.2 สามัญวิศวกร (ทำงานมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามปีจนกระทั่งมีประสบการณ์ในงานที่ตนเชี่ยวชาญ)
2.1.3 ภาคีวิศวกร (เด็กจบใหม่ยังไม่มีประสบการณ์ต้องทำงานภายใต้การควบคุมของสามัญหรือวุฒิวิศวกรเท่านั้น !!)

2.2 กลุ่มพิเศษ
2.2.1 ภาคีพิเศษ (ทำงานได้เฉพาะสาขาที่ตนเชี่ยวชาญเท่านั้น)

2. ประเภทของใบ กว. แบ่งออกได้ 4 ประเภท (กลุ่มปกติมี 3 ประเภท กลุ่มพิเศษมี 1 ประเภท)

บางท่านอาจจะงงว่าไอ้เจ้าภาคีพิเศษแตกต่างจากวิศวกรในกลุ่มปกติอย่างไร ผมขออธิบายตามนี้นะครับ ตัวอย่างเช่น ผมเป็นวิศวกรระดับสามัญเครื่องกล นั่นหมายความว่าผมสามารถทำงานด้านวิศวกรรมเครื่องกลได้ทุกประเภท หากลักษณะงานที่ผมทำไม่เกินกว่าการควบคุมที่วิศวกรระดับสามัญพึงรับผิดชอบได้ เพราะงั้นไม่ว่า งานวางโครงการ งานออกแบบคำนวณ งานสร้างและผลิต งานพิจารณาตรวจสอบ และสุดท้ายงานอำนวยการใช้ผมสามารถทำได้ทุกเรื่องทั้งงานท่อทาง งานหม้อต้มไอน้ำ งานออกแบบเครื่องจักร หรืองานอื่นๆ

ส่วนวิศวกรแบบภาคีพิเศษ "จะทำได้เฉพาะงานที่เจ้าตัวยื่นขอมากับทางสภาวิศวกรเท่านั้น" เช่น ยื่นขอมาทางด้านหม้อต้มไอน้ำก็ทำได้เฉพาะงานหม้อต้มฯเท่านั้น หรือยื่นขอมาเฉพาะงานยกหิ้วฯก็ทำได้เฉพาะงานยกหิ้ว.. นั่นหมายความว่าหากอยากขอภาคีพิเศษเรื่องใดต้องยื่นสอบเป็นเรื่องๆไป.. ดังนั้นแล้วหากท่านใดขอสามงานก็จะมีใบภาคีพิเศษถึงสามใบ.. ซึ่งต่างจากผมพกใบ กว.เครื่องกลระดับสามัญเพียงใบเดียวเท่านั้น..

ที่สำคัญนะครับงานของวิศวกรภาคีพิเศษ ด้านหลังบัตรจะถูกสลักหลังเอาไว้ด้วยว่าทำงานในหมวดนั้นได้ที่ระดับเท่าใด ตัวอย่างเช่น คุณได้ภาคีพิเศษเครื่องกลในงานหม้อต้มไอน้ำขนาดไม่เกิน 4 ตัน ก็จะทำได้เท่าที่ทางสภาวิศวกรสลักหลังเอาไว้เท่านั้น ห้ามทำเกินทำขาดได้อย่างเดียว..

ทั้งหมดนี้ผมอธิบายคร่าวๆนะครับ.. ในส่วนของผม ณ ตอนนี้ผมมีข้อมูลของเกณฑ์การสอบและคุณสมบัติของผู้ที่ต้องการสอบภาคีพิเศษด้านวิศวกรรมยกหิ้วเท่านั้น.. ใครสนใจสอบถามได้ครับ..